ประวัติลีโล่ and สติช


แต่ในความจริง ดาวตกดวงนั้นคือยานอวกาศของ สติทช์ สิ่งมีชีวิตประหลาด (ที่รู้จักกันในชื่อ "การทดลอง 626") ซึ่งเพิ่งหนีมาจากดาวทูโร่ นักวิทยาศาสตร์ชื่อ จัมบ้า (ให้เสียงพากย์โดย เดวิด อ็อกเดน สเทียร์ส) ผู้สร้างมันขึ้นมาพูดถึงสติทช์ว่า เป็นอะไรที่ "กันกระสุน กันไฟ และคิดได้เร็วยิ่งกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ซะอีก มันมองเห็นได้ในความมืด และยกวัตถุอะไรๆ ที่ใหญ่โตกว่าตัวมันถึง 3 พันเท่าได้ สัญชาตญาณอย่างเดียวของมันก็คือ.. ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่มันสัมผัส" ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย ในสายตาของสมาชิกสภาหญิง (ให้เสียงพากย์โดย โซ คาลด์เวลล์) แห่งสหพันธ์กาแล็กติค เธอจึงจับจัมบ้าเข้าคุก และพิพากษาให้ส่งตัวสติทช์ ไปยังดาวเคราะห์น้อยไกลลิบ แต่ก่อนที่กัปตันแกนทู จะลงมือกำจัดสติทช์ตามคำสั่ง มันก็ขโมยยานของตำรวจ และบังคับให้พุ่งด้วยความเร็วสูง หนีมายังโลกได้ทันเวลา สมาชิกสภาไม่มีทางเลือกอื่นอีก จึงต้องเสนอว่า จะปล่อยตัวจัมบ้าเป็นอิสระ หากเขาตามจับสติทช์กลับมาได้ และเพื่อจะคอยควบคุมปฏิบัติการของจัมบ้าไว้ ไม่ให้คลาดสายตา เธอจึงส่ง พลีคลี่ย์ (ให้เสียงพากย์โดย เควิน แม็คดอนัลด์) เอเลี่ยนผู้สนใจศึกษาโลกมนุษย์เป็นพิเศษ และมีสามขากับตาหนึ่งข้างให้ติดตามมาด้วย (โดยความรู้ทั้งมวลที่พลีคลี่ย์มีเกี่ยวกับโลกนั้น ได้มาจากการดูภาพใน View-master® ล้วนๆ )
ฝ่ายสติทช์นั้นบังคับยานมาถึงโลก และเคราะห์ร้ายดิ่งเข้าใส่รถบรรทุกน้ำตาลทรายเต็มเปา เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกทีก็พบว่า ตัวเองอยู่ในบ้านดูแลสัตว์หลังหนึ่ง และฉายแววเสน่ห์น่ารักเข้าตา จนลีโล่เก็บมันไปเลี้ยง (พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า สติทช์) ทักษะสุดล้ำหน้า ทำให้มันสามารถเก็บซ่อนแขนขาพิเศษ (จาก 6 เหลือ 4 ข้าง), เสาอากาศและเดือยบนหลังได้ เพื่อให้ตัวเองดูเหมือนหมาหน้าตาพิลึกๆ ตัวหนึ่ง แม้พี่สาวของลีโล่ และลูกจ้างบ้านดูแลสัตว์จะผวาหน้าตาของมัน แต่ลีโล่กลับหลงรักสติทช์ และยืนกรานจะนำกลับไปเลี้ยงที่บ้านให้ได้ ขณะที่สติทช์เองก็รู้ว่า ลีโล่กับนานี่มีที่คุ้มภัย ให้มันรอดจากเงื้อมมือชองจัมบ้ากับพลีคลี่ย์ได้ มันจึงยินดีที่จะถูกรับตัวไปเลี้ยง และทำตัว "ติดหนึบ" กับครอบครัวใหม่ของมันทันที
แต่ชีวิตใหม่ก็ไม่ได้ราบรื่นเอาซะเลย สติทช์เริ่มสำแดงพฤติกรรมร้ายๆ และสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายไม่หยุดหย่อน จนแทบจะเรียกได้ว่า เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักน้อยที่สุดแล้วบนโลกใบนี้ เมื่อลีโล่พามันไปร้านอาหารที่นานี่ทำงานอยู่ สติทช์ก็สร้างความพินาศจนนานี่ถูกไล่ออกจากงาน แต่ถึงอย่างนั้นลีโล่ก็ยังปกป้องมัน และกระตุ้นให้มันทำตัวเป็นประชากรตัวอย่าง เหมือนฮีโร่ของเธอคือ เอลวิส เพรสลี่ย์ ด้วย เดวิด คาเวน่า (ให้เสียงพากย์โดย เจสัน สก็อตต์ ลี) แฟนเก่า และเพื่อนร่วมงานของนานี่ พยายามช่วยให้ทุกคนอารมณ์ดีขึ้น ด้วยการชวนไปเล่นโต้คลื่นในตอนบ่าย ซึ่งสติทช์ก็สามารถเอาชนะ อาการเกลียดการเล่นเซิร์ฟของมันได้สำเร็จ แถมยังติดอกติดใจไม่ยอมเลิก จนเมื่อจัมบ้ากับพลีคลี่ย์มาพบเข้า ทั้งคู่ก็ดึงมันให้จมลงใต้น้ำ แต่เดวิดเข้ามาช่วยชีวิตไว้ได้ทันเวลา
คอบร้า บับเบิลส์ เห็นภาพความวุ่นวายบนชายหาดเข้าเต็มตา จึงบอกกับนานี่ว่า เขาไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว นอกจากแยกตัวลีโล่ไปซะ สติทช์จึงรู้ตัวเดี๋ยวนั้นเองว่า มันกำลังทำลายครอบครัวน้อยๆ นี้ ขณะที่ความปรารถนาโอฮาน่า ('ohana - ศัพท์ฮาวายเอี้ยน หมายถึงแนวคิดเรื่องครอบครัว ที่จะไม่มีการทอดทิ้ง หรือหลงลืมใครไว้ตามลำพัง) ของลีโล่ก็จางลงอย่างรวดเร็ว และเมื่อสมาชิกสภาหญิง ไล่จัมบ้ากับพลีคลี่ย์ออก เพราะปฏิบัติการล้มเหลว ทั้งคู่ก็ตัดสินใจลงมือครั้งสุดท้าย ด้วยการไล่ตามสติทช์ ไปถึงบ้านของลีโล่กับนานี่ แล้วพังบ้านนั้นทิ้ง แต่ก็ยังจับตัวสติทช์ไม่สำเร็จอยู่นั่นเอง
ในช่วงเวลาที่อะไรๆ เลวร้ายถึงขีดสุด กัปตันแกนทู (ให้เสียงพากย์โดย เควิน ไมเคิล ริชาร์ดสัน) ก็เดินทางมา พร้อมยานลำยักษ์ เพื่อจับตัวสติทช์ มันหนีไปได้ แต่ลีโล่กลับถูกจับแทน สติทช์ซึ่งตระหนักในที่สุดว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวลีโล่กับนานี่ จึงเกลี้ยกล่อมจัมบ้ากับพลีคลี่ย์ ให้ร่วมแรงกันช่วยลีโล่ออกมา การไล่ล่าอันดุเดือดทั่วเกาะฮาวายจึงเกิดขึ้น และสติทช์สามารถช่วยลีโล่ออกมาได้สำเร็จ ร้อนถึงสมาชิกสภาหญิง ต้องตัดสินใจออกมาเป็นผู้ควบคุมตัวสติทช์เอง และเกมนี้ดูเหมือนจะจบสิ้นลงในที่สุด แต่.. กฎของเกมก็ไม่ได้ดำเนินไปอย่างที่ใครๆ คาดคิด!
ปัญหาและอารมณ์ขันมีอยู่ เหลือล้นในสวรรค์! เมื่อเด็กหญิงขี้เหงาชาวฮาวายชื่อ ลีโล่ อธิษฐานกับดวงดาวขอใครซักคนมาเป็นเพื่อน แล้วเอเลี่ยนจอมซนมหากาฬแห่งจักรวาล ตอบรับคำขอของเธอใน Lilo & Stitch แอนิเมชั่นขบขันสดใส เรื่องใหม่ล่าสุดจาก วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส เรื่องนี้ ที่ซึ่งผสมผสานตัวละครอันน่าจดจำ, เรื่องราวที่เปี่ยมด้วยจินตนาการ กับอารมณ์ขันพิลึกกึกกือ และงานภาพสวยงามเจิดจ้า (เพราะนี่เป็นหนังเรื่องแรกในรอบ 6 ทศวรรษของทางสตูดิโอที่ใช้สีน้ำ!!!)
หนังเล่าเรื่องราวของหนูน้อยลีโล่ ที่ได้เผชิญหน้าระยะกระชั้น กับเอเลี่ยนทดลองสุดซ่าชื่อ "สติทช์" ซึ่งหนีมาจากดาวแห่งเอเลี่ยน แล้วหล่นลงบนพื้นโลก รูปร่างเล็กจ้อยหน้าตาละม้าย "หมา" ของสติทช์ ทำให้ลีโล่เก็บมันไปเลี้ยงด้วยความรัก ความจริงใจ และความเชื่ออันมั่นคงต่อเรื่อง "โอฮาน่า" ('ohana - ศัพท์ฮาวายหมายถึงครอบครัว) จนสามารถเปิดหัวใจของสติทช์ได้สำเร็จ และมอบสิ่งหนึ่ง ที่มันไม่เคยคาดฝันว่าจะมี นั่นคือ ครอบครัว
ด้วยภาพ บ้านเมืองเขตร้อนเขียวชุ่มฉ่ำ, อารมณ์ขันไม่ธรรมดา และเพลงคลาสสิคของ เอลวิส เพรสลี่ย์ ทำให้ Lilo & Stitch เป็นหนังที่จะพาคนดูเข้าสู่การเดินทางอันแสนรื่นรมย์ผ่านห้วงจักรวาลแอนิเม ชั่น โดยงานชิ้นนี้นับเป็นหนังเรื่องที่ 2 ที่สร้างกันที่แผนกภาพยนตร์แอนิเมชั่นในฟลอริด้า (Florida Feature Animation) ของดิสนีย์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นสถานที่สร้างผลงานเรื่องดังปี 1998 อย่าง Mulan มาแล้ว
องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมความโดดเด่นและ ความสนุกสนานให้แก่ Lilo & Stitch ก็คือซาวด์แทร็คสุดโจ๋ของ "ราชา" เอลวิส เพรสลี่ย์ ซึ่งเป็นผู้ขับร้องเพลงยอดฮิตทั้ง 6 เพลงที่ปรากฏในหนังเรื่องนี้ รวมถึงเวอร์ชั่นใหม่สุดเร้าใจของอีก 2 เพลงดังของเอลวิสคือ Burning Love ซึ่งขับขานโดยนักร้องคันทรี่ ระดับชิงรางวัลแกรมมี่อย่าง วินอนน่า (Wynonna) และ Can't Help Falling in Love ในช่วงเครดิตท้ายเรื่อง ขับร้องโดย A*Teens วงดนตรีพ็อพสุดดังของสวีเดน กับยังได้คอมโพสเซอร์ชื่อก้องอย่าง อลัน ซิลเวสทรี (เข้าชิงออสการ์จาก Forrest Gump) มาเพิ่มสีสันและความแฟนตาซี ให้แก่เรื่องราวเมามันยากจะคาดเดาของหนังเรื่องนี้ ด้วยดนตรีประกอบของเขา ร่วมกับนักดนตรีฮาวายมือฉมัง มาร์ค คีลี โฮโอมาลู (Mark Keali'i Ho'omalu) ในเพลงฮาวายเอี้ยนอีก 2 เพลง ซึ่งแสดงโดยสมาชิกวงคอรัสจาก Kamehameha School Children's Chorus
Lilo & Stitch เป็นหนังเรื่องที่สอง ที่สร้างกันในแผนกแอนิเมชั่นที่ฟลอริด้าของดิสนีย์ โดยทุกส่วนของงานสร้าง (ยกเว้นการวาดดิจิตอลที่ใช้ระบบ CAPS ซึ่งเคยคว้ารางวัลออสการ์มาแล้ว) เป็นหน้าที่รับผิดชอบของศิลปิน, แอนิเมเตอร์ และช่างเทคนิค 300 ชีวิตที่แผนกภาพยนตร์แอนิเมชั่นในฟลอริด้านี้
ผู้รับหน้าที่ดูแล Lilo & Stitch ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงงานสร้างก็คือ ทีมผู้กำกับ/เขียนบท คริส แซนเดอร์ส กับ ดีน เดบลัวส์ โดยแซนเดอร์สเป็นมือเก๋าผู้เก่งกาจ ที่ทำงานกับแผนกภาพยนตร์แอนิเมชั่น ของดิสนีย์มาตั้งแต่ปี 1987 และเคยทำสตอรี่บอร์ดฉากสำคัญๆ ใน Beauty and the Beast, เป็นโปรดัคชั่นดีไซเนอร์ให้ The Lion King และเป็นหัวหน้าทีมคิดเรื่องของ Mulan มาแล้ว ก่อนจะรับหน้าที่สร้างไอเดียของหนังเรื่องนี้ ส่วนเดอบลัวส์ ซึ่งเคยร่วมงานกับแซนเดอร์ส ในตำแหน่งหัวหน้าร่วมของฝ่ายเรื่องราวใน Mulan ก็สานต่อไอเดีย และนำความสามารถด้านการวางโครงร่างภาพ มาใช้กับโปรเจ็คต์นี้ ทั้งคู่เลือกทำบทให้เป็นสตอรี่บอร์ดด้วยตนเอง แทนที่จะใช้วิธีส่งต่อ ให้เป็นหน้าที่ของแผนกเรื่องราวเหมือนปกติ นั่นทำให้พวกเขาสามารถถ่ายทอดมุมมองของตน ต่อทีมงาน และกำหนดทิศทาง แก่ทีมแอนิเมเตอร์กับทีมสร้างสรรค์ ได้อย่างชัดเจนเป็นขั้นเป็นตอน
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสร้างตกเป็นของ คลาร์ค สเปนเซอร์ ซึ่งทำงานกับดิสนีย์มานาน 12 ปีโดยเริ่มจากงานด้านวางแผนและการเงิน ล่าสุดเป็นรองประธานอาวุโส กับผู้จัดการทั่วไปของวอลท์ ดิสนีย์ฟีเชอร์แอนิเมชั่นฟลอริด้า ลิซ่า พูล รับหน้าที่ผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้าง และ เจฟฟ์ ดัตตัน ผู้ประสานงานฝ่ายศิลปะ มาใช้ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ และการจัดการของเขา ในหน้าที่ดูแลงานสร้าง ให้ได้ผลดีเลิศที่สุดเมื่อปรากฏบนจอ
ผู้รับ หน้าที่ถ่ายทอดมุมมองของผู้กำกับ ให้กลายเป็นภาพบนจอก็คือ พอล เฟลิกซ์ โปรดัคชั่นดีไซเนอร์, ริค สลูเตอร์ ผู้กำกับศิลป์ และ บ็อบ สแตนตัน แบ็คกราวด์ซูเปอร์ไวเซอร์ โดยภาพวาดแรกเริ่มของแซนเดอร์ส ให้ไอเดียเกี่ยวกับการใช้สีน้ำ และสลูเตอร์ก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่า สไตล์ของสื่อชนิดนี้ เหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับการใช้จับอารมณ์ชุ่มฉ่ำ ตามธรรมชาติของเกาะฮาวาย พวกเขาร่วมกันทดลองสีน้ำ และค้นพบแนวทางใหม่ๆ ในการทำให้วิธีนี้เหมาะกับตัวหนัง สีน้ำเป็นสื่อที่เคยใช้กันเป็นปกติ ในหนังดิสนีย์ยุคแรกๆ อย่าง Snow White and the Seven Dwarfs, Pinocchio, Dumbo และ Bambi แต่ต่อมานักวาดได้เปลี่ยนมาใช้สีผสมน้ำมัน "gouache" (เป็นวิธีวาดสีทึบ) มากกว่า จนกระทั่งทีมแบ็คกราวด์ของ Lilo & Stitch กลับมารื้อฟื้นศิลปะที่ห่างหายไปแล้วนี้อีกครั้ง และนำมาใช้ในวิธีใหม่ที่น่าตื่นเต้น
นอกเหนือจากทีมที่กล่าวมาแล้ว ซูเปอร์ไวเซอร์คนหลักๆ ของหนังยังได้แก่ อาร์เดน ชาน (เลย์เอาต์), โจ กิลแลนด์ (วิชวลเอฟเฟ็คต์ส), เอริค กวากลิโอน (คอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น) และ ฟิลลิป บอยด์ กับ คริสทีน ลอว์เรนซ์-ฟินนีย์ ดูแลด้านคลีน-อัพ (Clean-Up) กิลแลนด์กับกวากลิโอน พบวิธีผสมผสานภาพจากเทคโนโลยี CG (computer generated) และเอฟเฟ็คต์เข้ากับภาพวาดสีน้ำ ส่วนทีมดิจิตอลโปรดัคชั่นและเอฟเฟ็คต์ ทำโมเดลและวาดภาพวัตถุต่างๆ เช่น ยานอวกาศ, ปืนรังสี, กระดานโต้คลื่น, ยานแม่ที่จะปรากฏให้เห็นในฉากเปิดเรื่อง นอกจากนั้น ทีมเอฟเฟ็คต์ยังสร้างภาพใต้น้ำที่น่าทึ่ง และพาคนดูไปพบกับภาพ ที่แม้แต่หนังคนแสดงก็ยังทำไม่ได้นั่นคือ ภาพด้านในของคลื่นยักษ์ กับยังมีเอฟเฟ็คต์น่าตื่นตาอีกมากมายในหนัง ไม่ว่าจะเป็นภาพลาวาไหลทะลัก, ระเบิด และภาพยานอวกาศของสติทช์ที่ถูกขโมยไป แล้วพุ่งด้วยความเร็วสูง เข้าสู่อุโมงค์กาลเวลาอย่างรุนแรง
เนื่องจากเรื่องราวเกิดขึ้นที่ฮาวาย ทีมงานจึงใช้เวลาไปศึกษาความงามตามธรรมชาติอันน่าทึ่ง ของเกาะสวรรค์แห่งนี้ แซนเดอร์ส, เดอบลัวส์, สลูเตอร์ ผู้กำกับศิลป์, สแตนตัน แบ็คกราวด์ซูเปอร์ไวเซอร์, แอนเดรียส เดจา แอนิเมเตอร์ และทีมงานอีกหลายคนหอบหิ้วกล้อง, พู่กัน และสมุดสเก็ตช์ แล้วมุ่งหน้าสู่ฮาวายเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อศึกษาทิวทัศน์ที่นั่น โดยใช้เวลาส่วนใหญ่บนเกาะคาวี (Kauai) ซึ่งทีมงานทั้งดำน้ำสน็อกเกิล, สกูบ้า, เล่นเซิร์ฟ และเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ อย่าง Hanalei, Hanapepe, หาดนาปาลี, พรินซ์วิลล์ และหาด Ke'e Beach รวมถึงอุทยานแห่งชาติอีกหลายแห่ง เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับใบไม้, พันธุ์พืช, หินลาวา, ทรายสีส้ม, ท้องทะเลสีเทอร์คอยซ์, ภูเขาสีแดงสด และภาพดวงอาทิตย์ตกอันสวยงาม นอกจากนั้น เดจายังไปดูโรงเรียนชนพื้นเมืองฮาวาย ซึ่งเน้นการศึกษาภาษา และวัฒนธรรมประจำเกาะด้วย
หัวใจสำคัญของเสน่ห์ และอารมณ์ของหนังก็คือ ทีมพากย์ระดับแนวหน้า นำโดย ดาวีห์ เชส (อายุ 11 ขวบ) รับบทเอกเป็นลีโล่ เธอเข้ามาทดสอบบท พร้อมกับเด็กหญิงคนอื่นๆ อีก 100 คน และสามารถอ่านบทได้ ตรงกับจินตนาการของทีมผู้กำกับมาก
น้ำเสียงอบอุ่นหวานหูในบท นานี่ ของ เทีย คาร์เรเร่ นักแสดงสาวเชื้อสายฮาวายตัวจริง ก็สร้างความประทับใจแก่ผู้กำกับ จนคว้าบทพี่สาวจอมวุ่นของลีโล่มาได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ วิง เรมส์ ที่ให้เสียงมีอำนาจปนลึกลับแก่บท คอบร้า บับเบิลส์ หนุ่มนักสังคมสงเคราะห์จอมเคร่งเครียด, เดวิด อ็อกเดน สเทียร์ส นักแสดงมากความสามารถ คนโปรดของแอนิเมเตอร์ดิสนีย์ ให้เสียงตัวร้ายอัจฉริยะ จัมบ้า จูกิบ้า, เควิน แม็คดอนัลด์ จาก Kids in the Hall และ That 70s Show พากย์เสียง พลีคลี่ย์ เอเลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านโลกมนุษย์, เจสัน สก็อตต์ ลี (ซึ่งเคยแสดงเป็นเมาคลี ในหนังของดิสนีย์เรื่อง The Jungle Book) นักแสดงชาวฮาวายอีกคนหนึ่ง ให้เสียง เดวิด คาเวน่า แฟนเก่าและเพื่อนร่วมเล่นโต้คลื่นของนานี่, โซ คาลด์เวลล์ นักแสดงหญิงเจ้าของ 4 รางวัลโทนี่ ให้เสียงสมาชิกสภาหญิง
สำหรับเรื่อง เสียงพากย์สติทช์นั้น ผู้กำกับ คริส แซนเดอร์ส บอกว่า "ตอนแรกเราไม่ได้คิดจะให้สติทช์พูดได้ ตอนที่ผมเอาโครงเรื่องไปเสนอนั้น ผมทำเสียงเล็กๆ น่ากลัวๆ ผสมไปด้วย ซึ่งมันก็ดูเข้ากันดีกับภาพวาด เราก็เลยยึดเสียงแบบนี้เอาไว้ และเมื่ออยู่ในช่วงพัฒนาเรื่อง เราก็ตัดสินใจว่าจะให้มันพูดซัก 2-3 หน รวมถึงในท่อนจบของหนังด้วย เราจึงพยายามทำงานหนักในด้านนี้ เพื่อให้ได้การแสดงที่ดูจริงใจมากที่สุด"
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอยุธยา
วัดไชยวัฒนาราม
สำหรับสิ่งที่น่าชมภายในวัด ได้แก่ พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นปรางค์ประธานของวัด ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสและที่มุมฐานมีปรางค์ทิศประจำอยู่ทั้งสี่มุม การที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองซึ่งเป็นกษัตริย์สมัยอยุธยาตอนปลาย ทรงสร้างปรางค์ขนาดใหญ่เป็นประธานของวัด เท่ากับเป็นการรื้อฟื้นศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น ที่นิยมสร้างปรางค์เป็นประธานของวัดเช่นการสร้างปรางค์ที่วัดมหาธาตุและวัดราชบูรณะ เนื่องมาจากพระองค์ทรงได้เขมรมาอยู่ใต้อำนาจ จึงมีการนำรูปแบบสถาปัตยกรรมเขมรเข้ามาใช้ในการก่อสร้างปรางค์อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังมีพระระเบียงรอบปรางค์ประธาน ภายในพระระเบียงมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ผนังระเบียงก่อด้วยอิฐถือปูน มีลูกกรงหลอกเป็นรูปลายกุดั่น พระอุโบสถ อยู่ด้านหน้าของวัดภายในมีซากพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสร้างด้วยหินทราย ใบเสมาของพระอุโบสถทำด้วยหินสีค่อนข้างเขียว จำหลักเป็นลายประจำยามและลายก้านขด และเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ทางด้านหน้าพระอุโบสถมีเจดีย์ 2 องค์ ฐานกว้าง 12 เมตร สูง 12 เมตร ซึ่งถือเป็นศิลปะที่เริ่มมีแพร่หลายตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ทั้งนี้ วัดไชยวัฒนาราม เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น.
ประวัติว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์
ธนกฤต พานิชวิทย์ หรือ ว่าน เกิดเมื่อ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2528 ที่นนทบุรี สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ จ.นนทบุรีและตอนปลายจากโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และขั้นปริญญาตรีจาก คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ภาควิชาดนตรีสากล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ปัจจุบันกำลังศึกษาเป็นนักเรียนทุนระดับปริญญาโทอยู่ที่ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพว่านเข้าวงการด้วยการสมัครเข้ารายการทรู อะคาเดมี แฟนเทเชีย ฤดูกาลที่ 2 ในรหัส V3
หลังจบการแข่งขัน ว่านก็มีผลงานเพลงออกมาภายใต้สังกัดบริษัท ทรู แฟนเทเชีย เช่น อัลบั้ม รวมถึงการเล่นละครโทรทัศน์ พิธีกรรายการโทรทัศน์ ละครเวที ภาพยนตร์ และ การเป็นดีเจแต่หลังจากครบสัญญา 5 ปี กับทาง ทรู แฟนเทเชีย ว่าน ธนกฤต ได้ย้ายสังกัดไปบริษัทในเครือของบริษัท แกรมมี่ แล้วเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2553
ข้อมูลศิลปิน
"ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์" 1 ใน 12 นักล่าฝันจากเวที Academy Fantasia Season 2 ถึงแม้ผลงานบนเวทีจะไม่ได้ดีเยี่ยมสักเท่าไหร่นักแต่ก็ถือว่าโดดเด่นไม่ใช่น้อย ก่อนหน้านี้เขามีผลงานเพลงร่วมกับเพื่อนๆ มาแล้ว มีเพลงเป็นที่รู้จัก อาทิ ซักเรื่องได้ไหม และหลังจากที่ปล่อยให้เพื่อนๆ จากเวทีเดียวกันมีผลงานเป็นของตัวเองแล้ว ก็ถึงคราวนายว่านงัดทีเด็ดที่มาจากความสามารถของตัวเองล้วน ๆ มากับอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกที่มีชื่อว่า "Soloist" โดยมีเพลงระยะปลอดภัย ที่ติดอันดับหนึ่ง ของ chart เพลงตามคลื่นวิทยุดังๆทั่วประเทศ และแรงอย่างต่อเนื่องด้วยอัลบัมเดี่ยวชุดที่สอง "Soloist Plan B" ที่มีเพลงฮิตติดหู ชื่อ อยู่บำรุง คนไม่มีเวลา โดย ว่าน ธนกฤต มีความฝันว่าในอนาคต อยากจะทำงานเบื้องหลังอย่างเต็มตัว
โปรดิวเซอร์
ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์ ได้เป็นเป็นโปรดิวเซอร์ที่คอยแต่งเพลง ให้แก่ศิลปินในค่าย ทรู แฟนเทเชีย และ นักร้องศิลปินคนอื่นๆ ในค่ายอื่นๆ มากมาย
ค่ายสังกัด
ทรู แฟนเทเชีย
ผลงาน
ผลงานเพลง
- อัลบั้ม
- อัลบั้ม Baby Hip-Pro [เพลง ว๊าก!!] (วางแผนเดือน กันยายน 2547)
- อัลบัม ปฏิบัติการเร่ขายฝัน [รวมเอเอฟ 2] (วางแผนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2548)
- อัลบั้ม Plam Plam (ร่วมกับ โจ AF2 (ภานุพล เอกเพชร) และ มาย AF2 (จิตตินันท์ หงษ์ทอง))(วางแผนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2549)
- อัลบัม Dream Team [เอเอฟ 1-2] (วางแผนเดือน กรกฎาคม 2549)
- อัลบั้ม Soul Much In Love (ร่วมกับ เอเอฟ 1-2-3) (วางแผนวันที่ 23 มกราคม 2550)
- อัลบั้ม เพลงประกอบละครเวที AF The Musical ตอน เงิน เงิน เงิน (วางแผนวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2550)
- อัลบั้ม Wan soloist อัลบัมเดี่ยวแรก (วางแผงวันที่ 18 ธันวาคม 2550)
- อัลบั้มเพลงประกอบละครเวที AF The Musical ตอน โจโจ้ซัง (วางแผนวันที่ 12 สิงหาคม 2551)
- อัลบัมเพลงฮอตละครฮิต5 (เพลง อยู่เดี่ยว และ คนเย็นชาไม่เหลือใคร ประกอบละคร ก๊วนกามเทพ) (วางแผนวันที่ 2 มิถุนายน 2552)
- เพลง "อยู่บำรุง" ในอัลบัม AF Hits Singles 2009(วางแผนวันที่ 14 มกราคม 2553)
- อัลบั้มเดี่ยวที่สอง Soloist Plan B (CD วางแผงวันที่ 29 มกราคม 2553) และ (DVD คาราโอเกะ วางแผงวันที่ 7 เมษายน 2553)
- Cover เพลง "อารมณ์ดี" Ost. บ้านฉันตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) ภาพยนตร์ล่าสุดของ GTH
- เพลง "ปลายฝัน" โฆษณา รถยนต์ โตโยต้า วีออส (ร่วมกับ โจ - ภาณุพล เอกเพชร)
- เพลง "สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก" Ost. สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า...รัก ภาพยนตร์ล่าสุดของ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
- เพลง Green Heart "ost.เพลงประกอบโฆษณาปูนอินทรี
- เพลง เหตุผล(ที่คนไม่เข้าใจ)Ost.ละครโทรทัศน์เรื่องปลาไหลป้ายแดง
- เพลง "ทางออก" โฆษณา รถยนต์ โตโยต้า วีออส (ร่วมกับ โจ - ภาณุพล เอกเพชร)
- เพลง "ทำเพื่อเธอ" Ost.ละครโทรทัศน์เรื่องเงาพราย
- คอนเสิร์ต
- Dream Factory Concert [รวมเอเอฟ 2]
- Never Before Never Again Concert by P&G [รวมเอเอฟ 2]
- Love Me Love My Dog Concert by Central Plus Card [รวมเอเอฟ 2]
- The Battle of Dream Concert [รวมเอเอฟ 1-2]
- To Be Number One Concert ตอน : กำเนิดนักล่าฝัน [ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริโสภาพรรณวดี และเอเอฟ 2]
- AF Dream Team Concert by FM One [รวมเอเอฟ 1-2]
- คืนเหย้าเหล่านักล่าฝัน [รวมเอเอฟ 2]
- Snow Kim กับผู้ชายทั้ง 7 โดยเป็น 1 ในแขกรับเชิญ
- To Be Number One Concert ตอน :The theatre of Love[ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริโสภาพรรณวดี และเอเอฟ 1-2-3]
- Green Concert หมายเลข 10 The Lost Love Songs (พร้อมบันทึกเสียงในซีดีที่แจกให้ผู้ซื้อบัตรทุกท่าน)
- A-TIME * AF คนพันธุ์ A , The Reality Concert (ดีเจเอไทม์ ปะทะ เอเอฟ)
- AF FUNTASIA ปี 2007 ที่สวนสนุกดรีมเวิร์ล เวที Magic Chat show
- BRIGHTER IDEA BY PHILIPS TORNADO PRESENTS AMP - WAN LIVE IN CONCERT I’ll HAVE TO SAY I LOVE YOU IN A SONG
- THE SINGER CONCERT อ๊อฟ ปองศักดิ์ เป็น 1 ในแขกรับเชิญ
- AF FUNTASIA 2008 ตอน Cooling The World ที่สวนสัตว์ซาฟารีเวิร์ล เวที Melody of Bird
- Miniconcert ต่างๆ ของ Chill Band ของคลื่น 89 Chill FM ตาม Tops supermarket
- Calories Blah Blah Unplugged concert เป็นแขกรับเชิญ ในรอบวันอาทิตย์ที่ 28 มิย. 09
- Green Concert หมายเลข 12 Greenwave's The Greatest Songs (จำนวน 2 รอบ ในวันที่ 26 ถึง 27 กย.09)
- ว่าน เอ็ม รุจ YESTERDAY ONCE MORE CONCERT WITH WAN M RUJ (จำนวน 2 รอบ ในวันที่ 17 ถึง 18 ตค. 09)
- True Music Party ตามสถาบันในจังหวัดต่างๆ
- COVER NIGH PLUS THE DUET GUITER กับ โรส ศิรินทิพย์
- 5 men and a lady concert (วิยะดา โกมารกุล ณ นคร)
- Free concert ของ Nestle Fitness แดน วรเวช และ วงมายด์
- Miniconcert Wan Soloist Plan B จัดที่ อาคารทิปโก้ ถ.พระราม 6 (เดิมจัดที่ Centerpoint PlayHouse @ Central World)
- คอนเสิร์ตอาหลานโชว์ ร่วมกับ ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว กับ อ๊อฟ ปองศักดิ์
- คอนเสิร์ตแสตมป์ ควบ ว่าน ร่วมกับ แสตมป์ อภิวัชร์ จัดที่ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง อาคารกีฬาเวสน์ 2 (จำนวน 1 รอบ ในวันที่ 7 สค. 10)
- คอนเสิร์ต Bam'S Love Song Concert ในวันที่ 13 พย. 10
- พิธีกรในคอนเสิร์ต KRUNGSRI AF COMEDY SHOW MUST GO ON
- นักแต่งเพลง
- แต่งเนื้อเพลงและร่วมร้องคอรัส เพลง "เพราะดาว" ในอัลบั้มเดี่ยวของ พัดชา เอนกอายุวัฒน์ (อัลบั้ม Patcha the miracle 6)
- แต่งเนื้อเพลง "คนไกลไกล" ขับร้องโดย เจนนิเฟอร์ คิ้ม (ทำนองเพลงแต่งโดย จรส ฟูพร้อมวงศ์)
- แต่งเนื้อเพลงในอัลบั้มรวมของเอเอฟ 5 ให้กับ กี๋ AF5 (ฐษชัย ชนะอรรถกาล) ร่วมกับ ครูบิ๊ก ธานัท ธัญญาหาร
- แต่งเนื้อเพลงในอัลบั้มรวมของเอเอฟ 5 ให้กับ ว่าน AF5 (ยศนันท์ วงษ์เซ็ง) ร่วมกับ จั๊ก ชวิน จิตรสมบูรณ์
- แต่งเนื้อและทำนองเพลง "รักหมุนเวียน" โดยร่วมร้องกับ โจ AF2 (ภานุพล เอกเพชร) เพื่อประกอบรายการเจาะใจ ตอน Change
- แต่งเนื้อและทำนองเพลง "วันทุกข์ วันศุกร์" ประจำรายการ Club Friday ของ คลื่น 106.5 Greenwave
- แต่งเนื้อเพลงประกอบละคร "ก๊วนกามเทพ" จำนวน 2 เพลง เพลงอยู่เดี่ยว และเพลง คนเย็นชา..ไม่เหลือใคร
- แต่งเนื้อเพลง "ไม่ใช่ความจริง" ให้กับ มาลีวัลย์ เจมีน่า (อัลบั้ม "Sensation")
- แต่งเนื้อเพลง "คนที่พร้อมให้เธอ" ให้กับ วันธงชัย อินทรวัตร (ต้อล AF4) โดยใช้ประกอบละคร "เศรษฐีข้างเขียง"
- แต่งเนื้อเพลงทุกเพลงในอัลบัมใหม่ของ น็อตโต๊ะ ร่วมกับ จั๊ก ชวิน จิตรสมบรูณ์ โดยมีซิงเกิ้ลแรกชื่อเพลง "เพื่อนคนสุดท้าย" และซิงเกิ้ลที่สอง "รักข้างเดียว"
- แต่งเนื้อเพลง "ถามทำไม" ให้กับ ธัญนันท์ มหาพิรุณ (จีน AF)
- แต่งเนื้อเพลง "เกินนาน" ในอัลบั้มรวม AF6 Debutants AF6 The Album ให้กับ อ๊อฟ (ชาญณรงค์ หอมชิต)
- แต่งเนื้อเพลง "ถามไม่เอาคำตอบ" ในอัลบั้มรวม AF6 Debutants AF6 The Album ให้กับ ที (ทีป์ชลิต พรหมชนะ)
- แต่งเนื้อและทำนองเพลง "สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก" เพลงประกอบภาพยนตร์ สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า...รัก
- แต่งเนื้อเพลง "เสียงพล่อยๆ" ให้กับ พัดชา เอนกอายุวัฒน์
- แต่งเนื้อเพลงและทำนองเพลง "ไม่มีใคร...ดีกว่า" ในอัมบั้มรวม True AF7 Showcase ให้กับ น้ำแข็ง (ชญาน์ทัต อยู่เป็นแก้ว )
- แต่งเนื้อเพลงและทำนองเพลง เหตุผล(คนที่ไม่เข้าใจ)ประกอบละคร ปลาไหลป้ายแดง
- แต่งเนื้อเพลงและทำนองเพลง ถึงเธออีกคน ขับร้องโดย โบ สุนิตา ประกอบละคร ปลาไหลป้ายแดง
- แต่งเนื้อเพลง "รักเธอซ้ำๆ" ให้กับ โรส ศิรินทิพย์ หาญประดิษฐ์ (อัลบั้ม "Living Rose")
- โปรดิวเซอร์
- เป็นโปรดิวเซอร์ในอัลบั้มรวม AF6 Debutants AF6 The Album ให้กับ อ๊อฟ (ชาญณรงค์ หอมชิต)
- เป็นโปรดิวเซอร์ในอัลบั้มรวม AF6 Debutants AF6 The Album ให้กับ ที (ทีป์ชลิต พรหมชนะ)
- เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับ โตน โซฟา (จักรธร ขจรไชยกูล)ให้กับวง Past Tales
- เป็นโปรดิวเซอร์ในอัมบั้มรวม True AF7 Showcase ให้กับ น้ำแข็ง (ชญาน์ทัต อยู่เป็นแก้ว )
ผลงานละครโทรทัศน์และภาพยนตร์
- ละคร เพื่อนรักนักล่าฝัน (รวมเอเอฟ2) รับบท ป่าน
- ละคร ต่างฟ้าตะวันเดียว (พ.ศ. 2549) ทางช่อง 3 รับบท ปานสรวง (ปลา)
- ละคร คมรักคมเสน่หา (พ.ศ. 2549-2550) ช่อง ไอทีวี คู่กับ คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ รับบท กาลัญ
- ละครเทิดพระเกียรติ "ปกป่าเพื่อแม่"เรื่อง ไฟเดือนห้ากับฝนเดือนหก" (ฉายวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2550) ทางโมเดิร์นไนน์ รับบท วสันต์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยควบคุมไฟป่า
- ภาพยนตร์ เรื่อง "เหยิน เป๋ เหล่ เซมากูเตะ" (กำหนดการฉายวันที่ 27 ธันวาคม 2550) คู่กับ พิชญ์นาฏ สาขากร
- ละคร "รักนี้เคียงตะวัน" ฉายทางช่อง 7 เวลา 18.45 - 19.30 น. (2552) คู่กับ สุนันท์ษา จิรมณีกุล รับบท สารวัตรปกรณ์
- ภาพยนตร์ เรื่อง "Before Valentine ก่อนรัก...หมุนรอบตัวเรา" คู่กับ ไดอาน่า จงจินตนาการ รับบท สุธี
- ละคร ทัดดาว บุษยา (ฉายวันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553) รับบท วิธูร คู่กับ คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์
- รักล้นๆ 9 คน 4 คู่ คู่ คู่กับ คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ (ฉายวันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2553) ทางโมเดิร์นไนน์ รับบท ก้อง
- ละคร ปลาไหลป้ายแดง คู่กับ พริมรตา เดชอุดม ทางช่อง3 รับบท ปุริม
- ละคร เมียแต่ง (กำลังถ่ายทำ)
- ละครคุณชายธราธร คู่กับ คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ รับบท ชินกร
ผลงานโฆษณา
- โฆษณารถจักรยานยนต์ ฮอนด้า- Honda Click
- โฆษณาหลอดไฟฟิลลิป
- โฆษณาร้านสะดวกซื้อ 7-11 ตอน ซาละเปา และ ตอน เบเกอรี่
- โฆษณา CP ชุด Best of Noodle
- โฆษณา True move sim "ซิมรีโมท"
- โฆษณา รถยนต์ โตโยต้า วีออส (ร่วมกับ โจ - ภาณุพล เอกเพชร)
- โฆษณา ซุปเปอร์กาแฟ
- โฆษณา วอยช์
ผลงานละครเวที
- ละครเวที เอเอฟเดอะมิวสิเคิล ตอน เงิน เงิน เงิน รับบทเป็น สัปเหร่อยุทธ์ คู่กับ คุณหนูนัตตี้ (ซึ่งรับบทโดย ซาร่า –นลินธารา โฮเลอร์)
- ละครเวที เอเอฟเดอะมิวสิเคิล ตอน โจโจ้ซังรับบทเป็น นาวาโท บี.เอฟ.พิงเคอร์ตัน คู่กับ โจโจ้ซัง (ซึ่งรับบทโดย มิ้น -มิณฑิตา วัฒนกุล)
ผลงานดีเจ
- ปี 2549-2552 เป็นดีเจในช่วง "โจว่านโชว์" ทางคลื่น 94 EFM ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 14.00-17.00 น. (คู่กับ ภานุพล เอกเพชร)
- ปี 2552 เป็นดีเจคลื่น Chill89 ทุกวันจันทร์ ถึง ศุกร์ เวลา 16.00 - 18.00 น.
- ปัจจุบัน เป็นดีเจคลื่น Chill89 ช่วง CHILL RECOMMEND ทุกวันอาทิตย์ 16.00-18.00 น. ร่วมกับ ดีเจ.โตน
ผลงานพิธีกร
- พิธีกร รายการ "สุดขั้วทั่วโลก" ทางช่อง โมเดิร์นไนน์ ทีวี (พ.ศ. 2549) (คู่กับ ภานุพล เอกเพชร)
- พิธีกร รายการ "ศุกร์สุดสุข" ทางสถานีกองทัพบกช่อง5 (พ.ศ. 2550) ทุกวันศุกร์ เวลา 9.00 - 9.30 น.
- พิธีกร รายการ "Design" ทางช่อง โมเดิร์นไนน์ ทีวี (พ.ศ. 2551) คู่กับพี่ม้า อรนภา (เป็นพิธีกรภาคสนาม) ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30 - 12.00 น.
- พิธีกร รายการ "7 กะรัต" ทางช่อง 7 (พ.ศ. 2551) เป็นพิธีกรภาคสนาม ช่วง เพชรตัดเพชร ทุกวันอังคาร เวลา 22.25 น.
- พิธีกร รายการ "ohno show" ทางช่อง 5 (พ.ศ. 2553) ร่วมกับ นีโน่ เมทนี และ โอ วรุต ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 21.30 น.
- พิธีกร ตามงาน event ต่างๆ
ผลงานอื่นๆ
- ถ่ายแบบ
- เดินแบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น